ข่าวฟุตบอลยุโรป

เช็คบิลประเด็นร้อนหลังหงส์คว้ายูฟ่า ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 4

จบไปแล้วอย่างสุขสมอารมณ์หมายสำหรับเหล่าสาวกเดอะค็อปนะครัช (อิๆ) หลังจากที่หงส์แดง ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์แรกประจำซีซั่นใหม่ 2019/2020 ได้อย่างสวยงาม นั่นคือแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ซึ่งนับเป็นการคว้าแชมป์นี้เป็นครั้งที่ 4 ของสโมสรแล้ว ด้วยการยิงจุดโทษเบียดเอาชนะสิงห์บลู เชลซี ไปได้ 5-4 (หลังจากที่ในเวลาปกติและต่อเวลาพิเศษ ทั้งคู่เสมอกันที่ 2-2)

และต่อไปนี้คือการเก็บตกเช็คบิลประเด็นร้อนจากนัดดังกล่าว มีประเด็นไหนประเด็นอะไรน่าสนใจสาวความกันต่อบ้าง ไปดูกันเลยครับ

1.กำแพงเหล็กเริ่มผุ (รึเปล่านะ?)

ซีซั่นก่อน แผงหลังของหงส์แดงขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเหนียวแน่นแข็งแกร่ง ภายใต้การทำงานของขุมกำลังแบ็คโฟร์อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โจเอล มาติป, โจ โกเมซ รวมไปถึงกองหลังที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง เดยัน ลอฟเรน (อิๆ) อย่างไรก็ตาม หลังจากอิ่มเอมกับแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกประจำซีซั่นก่อนกันอย่างสุดเหวี่ยง กลับมาเข้าสู่ช่วงเปิดซีซั่นใหม่ ขุมกำลังชุดเดิมนี้กลับมีฟอร์มการเล่นที่แผ่วไปอย่างน่าตกใจ

โดยเฉพาะในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ นี้กับเชลซี แผงหลังแบ็คโฟร์อย่าง โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กลับโชว์ฟอร์มค่อนไปทางหละหลวม โดยเฉพาะการเช็คล้ำหน้าที่พลาดไปจังๆ ถึง 3 จังหวะ และ 2 ใน 3 นั้นเป็นประตูของเชลซี แสดงให้เห็นถึงความพร้อมเพรียงที่ย่อหย่อนและหละหลวมลงไป หรืออีกประเด็นก็คือ การขยับ โจ โกเมซ ไปประจำการที่กราบซ้ายที่ไม่ใช่ตำแหน่งซึ่งเหมาะสมเท่าไหร่นักสำหรับเจ้าตัว ทำให้อะไรต่อมิอะไรแลดูผิดพลาดไปหมด

นอกจากการเช็คล้ำหน้าแล้ว ใครที่ชมการถ่ายทอดสดจะเห็นได้ว่า มีหลายจังหวะเหลือเกินที่แนวรับของลิเวอร์พูลถูกผู้เล่นแดนหน้าของเชลซีเจาะทะลุทะลวงตามช่อง (ซึ่งช่องใหญ่ม้วกกกก) และหลายๆ จังหวะถ้าไม่ใช่เพราะถูกดักล้ำหน้า ถูกเสาโดนคาน และนายประตูตัวล่าอย่าง เอเดรียน ช่วยชีวิตไว้ เชลซีมีสิทธิ์ถลุงประตูลิเวอร์พูลได้สนุกเท้ากว่านี้เลยทีเดียว

ด้วยเหตุผลประการละฉะนี้ สิ่งสำคัญก่อนที่จะเข้าสู่นัดที่ 2 ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รวมถึงรายการสำคัญๆ อย่างยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกสำหรับลิเวอร์พูลก็คือ การกวดขันแนวรับให้กระชับรัดกุมมากขึ้น เข้าใจว่าเพิ่งเปิดซีซั่นมาได้ไม่เท่าไหร่ อะไรๆ มันก็อาจจะหย่อนๆ ยานๆ หลวมๆ ไม่เข้าที่เข้าทางกันไปบ้าง แต่เมื่อซีซั่นใหม่เริ่มแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องรีบจัดการอะไรให้เข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว เพราะหากจะหวังแย่งลุ้นแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีความแน่นอนและโหดดิบสูง มันจำเป็นจะต้องรีบเรียกฟอร์มเก่งตั้งแต่ต้นซีซั่น เก็บคะแนนแบบละเอียดยิบชนิดนัดต่อนัด เพื่อจะได้เบียดบี้สู้กันไปได้ยาวๆ หากเผลอไม่รัดกุมแค่ช่วงเดียว ก็อาจถูกทิ้งห่างและลำบากในการลุ้นแย่งแชมป์ได้นะเออ

อันนี้เป๊ปเขาบอกมา…

2.ฟีมีโน่คือหัวใจของลิเวอร์พูล

ในขณะที่ โมฮัมเหม็ด ซาร์ลา และ ซาดิโอ มาเน่ คือตัวความหวังในการกระทุ้งตาข่ายคู่แข่งของลิเวอร์พูล แต่ในวันที่ทีมปราศจาก โรแบร์โต ฟีร์มีโน่ วันนั้นซาร์ลาและมาเน่ก็เหมือนกับดวงดาวที่อับแสง ทำอย่างไรก็บอดก็มืดยังไงยังงั้น

เพราะหากทั้งซาร์ลาและมาเน่คือตัวถล่มประตูคู่แข่ง ฟีร์มีโน่ก็คือฟันเฟืองในเกมรุกของหงส์แดงที่คอยขับเคลื่อนและสร้างสรรค์โอกาสในการบุกให้เพื่อนได้มีจังหวะจบสกอร์ ที่จริงมันเป็นเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว และก็ยิ่งมาเห็นได้ชัดมากถึงมากที่สุดจากแมตช์ที่เฉือนจุดโทษเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ นี่แหละ ว่าครึ่งแรกที่ปราศจากฟีร์มีโน่ เกมรุกของหงส์แดงช่างไร้สมดุล ขาดๆ เกินๆ ไม่สมูท และไร้ประสิทธิภาพสิ้นดี

กระทั่งฟีร์มีโน่ลงมา ทุกอย่างก็ดูดีขึ้น เพราะเขาคือตัวเชื่อมเกมและสร้างสรรค์โอกาสชั้นยอดที่ลิเวอร์พูลจะขาดไปเสียมิได้

ว่าก็ว่าเถอะ นัดไหนของลิเวอร์พูลจะไม่มีซาร์ลากับมาเน่บ้างก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก เอาโอริกี้ลงมาบ้างก็ได้ แต่ถ้าไม่มีฟีร์มีโน่ นัดนั้นลำบาก บอกเลออออ…

3.พูลิซิช = นิวอาซาร์

หากถามถึงนักเตะที่โดดเด่นในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในฟากฝั่งของเชลซี หากไม่นับชื่อของ เอ็นโกโล่ กองเต้ ซึ่งขาดไม่ได้อยู่แล้วววว… ชื่อของกัปตันอเมริกาอย่าง คริสเตียน พูลิซิช ก็ถือว่ามีความโดดเด่นชวนจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว

ด้วยบทบาทตัวรุกริมเส้น ที่เผลอเป็นไม่ได้ ต้องขยับบีบรุกเข้าตรงกลาง อีกทั้งลีลาจังหวะลากเลื้อย รวมถึงการยิงประตูอันคมกริบ ทำให้แฟนๆ สิงห์บลูอดนึกถึง เอเด็น อาซาร์ ไม่ได้ และพลางก็อุทานออกมาเบาๆ ว่า นี่มันร่างทรงของอาซาร์ในเวอร์ชั่นที่หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวกว่าชัดๆ

พูลิซิชเด่นมากครับในแนวรุกของเชลซี และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นนิวอาซาร์ หรืออาซาร์คนใหม่ ในความหมายของการทดแทนตำแหน่งกัน ไม่ใช่ในความหมายของลีลาการเล่น

นั่นหมายถึงเชลซีจะเติบโตขึ้นจากจุดที่เป็นอยู่ โดยมีพูลิซิชเป็นศูนย์กลางในเกมรุก และความหวังของทีมก็ขึ้นอยู่กับกัปตันอเมริกาคนนี้นี่แหละ

4.เชลซีต้องมีหน้าเป้า (ที่ดีกว่านี้!)

พูลิซิชคือความหวังใหม่ของเชลซี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเชลซีควรจะพึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะจากเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่ผ่านมาบ่งบอกให้เห็นว่า เชลซีควรจะต้องมีการเสริมทัพในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าใหม่

แม้กองหน้าตัวรับอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะแสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณในการจบสกอร์ที่ยังคมกริบอยู่ในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่ผ่านมา แต่ในหลายๆ จังหวะจะเห็นว่าเขายังทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะบทบาทการเป็นตัวพักบอลและสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม กองหน้าแชมป์โลกชาวฝรั่งเศสยังไม่สามารถเชื่อมร้อยและประสานงานกับเพื่อนๆ ได้อย่างเนียนตาและมีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น

ครั้นจะหวังพึ่งพา แทมมี่ อับราฮัม ก็ต้องบอกว่าแม้กองหน้าผิวสีจะดูมีทรงที่ดี แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะจรัสแสง ในตอนนี้แฟนๆ ยังไม่สามารถไว้วางใจแทมมี่ได้เท่าไหร่

ดังนั้นสิ่งที่เชลซีควรจะทำอย่างยิ่ง (ซึ่งกว่าจะทำได้ก็คงต้องรอช่วงตลาดนักเตะเปิดปีใหม่แล้วนั่นแหละ) ก็คือการซื้อกองหน้าตัวเป้ารายใหม่มาเข้าทีมซะ!

แล้วอะไรๆ มันอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้

5.เชลซีเล่นดี แต่เสียกำลังใจ (มั้ย?)

ใครที่ได้ชมฟอร์มของพลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ใน 2 นัดที่ผ่านมา คือนัดเปิดสนามซีซั่นใหม่พรีเมียร์ลีกอังกฤษกับปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนัดชิงยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับลิเวอร์พูลนี้ น่าจะเห็นตรงกันนะครับว่า เชลซีแม้จะพลาดท่าเสียทีทั้ง 2 นัด แต่พวกเขาเล่นได้ดีมาก ทั้งทรงบอล การเชื่อมประสานของผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง การสร้างสรรค์เกม จะขาดก็แต่การจบสกอร์ที่ดูจะไม่เป็นใจกับพลพรรคสิงโตน้ำเงินครามเอาเสียเลย เพราะยิงชนเสาชนคานเป็นว่าเล่น ลูกไหนที่น่าจะเข้าก็โดนผู้รักษาประตูของแมนฯ ยูฯ และลิเวอร์พูลหยุดไว้ได้เกือบหมด (ซึ่งมันก็สอดคล้องกับประเด็นเรื่องกองหน้าที่มีอยู่ไม่โอเคนั่นแหละ)

อย่างไรก็ตาม โลกของฟุตบอลมันไม่มีที่ว่างหรือตำแหน่งแชมป์ให้กับทีมที่เล่นดี แต่ยิงประตูไม่ได้หรอกครับ ก็เหมือนที่หลายๆ คนทราบกันอยู่แล้ว

เชลซีเล่นดี แต่แพ้ 2 นัดรวด ชวดแชมป์ไป 1 ถ้าจะบอกว่านักเตะไม่เสียกำลังใจมันก็คงกระไรอยู่ ยิ่งเพิ่งได้ผู้จัดการทีมใหม่หมาดอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งก็ถูกวิจารณ์เรื่องชื่อชั้นและฝีมือมาตั้งแต่ตอนแต่งตั้งแล้วด้วย การแพ้ 2 นัดในการประเดิมซีซั่นใหม่ของเชลซี มันจึงเป็นความกดดันและความเครียดของทั้งแลมพาร์ดและนักเตะอย่างแน่นอน

ก็ได้แต่หวังว่าทั้งแลมพาร์ดและนักเตะสิงห์บลูจะรีบตั้งสติ และพยายามควานหาชัยชนะแรกของซีซั่นใหม่นี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นซีซั่นนี้สำหรับสิงโตน้ำเงินครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิดกันไว้นะ

(แถม) 6.คนเหนือดวง!

ประเด็นสุดท้ายที่ขอแถม ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แต่อยากเขียนถึงนายประตูใหม่หมาดของลิเวอร์พูล ที่ดูจะมีความดวงเฮงไม่น้อยทีเดียว สำหรับ เอเดรียน ที่เพิ่งตบเท้าเข้าสู่รั้วแอนฟิลด์ได้ไม่กี่นาน ก็ได้รับโอกาสลงตัวจริงแทน อลิสซง เบคเกอร์ ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเจ็บ เปิดสนามซีซั่นใหม่ไปไม่ทันไรก็ดันเจ็บยาวซะงั้น เอเดรียนก็เลยได้โอกาสลงสนามในเกมสำคัญอย่างยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ นัดชิงนี้ และก็โชว์ฟอร์มได้ในระดับดี (แม้จะพลาดทำให้ทีมเสียจุดโทษไป 1 ลูกก็ตาม) ช่วยเซฟจุดโทษลูกชี้ขาด ทำให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ สมัยที่ 4 ของสโมสรมาครองได้อย่างสวยงาม แถมทั้งยังเป็นโทรฟี่แรกของเจ้าตัวเอเดรียนเขาเสียด้วย

แหม…เก่งบวกเฮงแบบนี้ น่าติดตามจริงๆ ว่าเจ้าตัวจะไปได้ถึงขั้นไหนนะครับ ว่าแต่มีใครเห็น ซิมง มินโญเลต์ บ้างมั้ย? ว่าจะหาซื้ออะไรไปปลอบใจเจ้าตัวซะหน่อย.

SBOTHAICLUB LINE

SBOTHAICLUB - เล่น SBOBET กับน้องโยโย่ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

Comments

comments

SBOBET SBOTHAICLUB
To Top