จบลงไปแล้วนะครับสำหรับมหากาพย์การเดินหน้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของหงส์แดง ลิเวอร์พูล และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของพลพรรคเดอะค็อปในรอบ 30 ปี (นับรวมกับแชมป์สมัยยังเป็นดิวิชั่น 1 เดิม) แน่นอนว่าแชมป์ครั้งนี้นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของพลพรรคเดอะค็อปกันถ้วนหน้า ว่าแล้วเราก็ลองไปไล่ดูกันหน่อยดีกว่าว่า หลังจากลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการแล้วนี้ มีอะไรหรือสถิติอันใดเกิดขึ้น (และอาจจะเกิดขึ้น) บ้าง ลองไปดูกันครับ
1.การได้แชมป์ไวที่สุด หลังจากที่ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายแพ้ต่อสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ไป 1-2 ก็ส่งให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำซีซั่นนี้ทันที แม้จะเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกถึง 7 นัด ซึ่งถือเป็นสถิติการคว้าแชมป์ได้เร็วที่สุด (เมื่อวัดจากจำนวนนัด) ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
2.ประกาศิตของคล็อปป์ หากใครจำกันได้ ในวันที่กุนซือมาดฮาร์ดคอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ เดินทางมารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของหงส์แดงเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2015 นั้น ในการแถลงข่าวเขาได้ประกาศไว้ว่า จะขอเวลาประมาณ 4 ปีที่จะพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ก่อนจะมาได้แชมป์ในซีซั่นนี้ ซึ่งหากจะวัดแบบเป๊ะๆ ก็อาจบอกได้ว่าคล็อปป์ทำไม่ได้ตามสัญญา เพราะช้าไป 1 ซีซั่น แต่ในแง่ของการพัฒนาทีมแล้ว การทำได้ขนาดนี้ต้องยอมรับในฝีมือของกุนซือหนุ่มชาวเยอรมันที่สามารถยกระดับลิเวอร์พูลขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม และถ้าหากใครจำได้ เมื่อซีซั่นก่อนคล็อปป์ก็เกือบพาลิเวอร์พูลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แล้ว ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ติดแต่เพียงว่าในซีซั่นนั้น เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าแค่นั้นเอง
3.ได้แชมป์รวมเยอะกว่าแมนฯ ยูฯ หมายรวมถึงแชมป์ใหญ่รายการอื่นๆ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วลิเวอร์พูลก็ได้แชมป์รวมทุกถ้วยเยอะกว่าปีศาจแดงอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่ว่าเริ่มมีกระแสออกมาในช่วงนี้ว่า ถึงลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ก็ยังได้แชมป์รวมถ้วยอื่นๆ น้อยกว่าแมนฯ ยูฯ ซึ่งไม่จริงแต่อย่างใด ลองไปเทียบดูกันได้
ลิเวอร์พูล : แชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย, เอฟเอคัพ 7 สมัย, ลีกคัพ 8 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (รวมถึงสมัยยังเป็นยูโรเปียนคัพ) 6 สมัย, ยูฟ่าคัพ (หรือยูโรปาลีก) 3 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 4 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย = รวม 48 แชมป์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : แชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัย, เอฟเอคัพ 12 สมัย, ลีกคัพ 5 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (รวมถึงสมัยยังเป็นยูโรเปียนคัพ) 3 สมัย, ยูโรปาลีก 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย, คัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย = 45 แชมป์
4.ทำสถิติชนะในบ้านติดต่อกันนานที่สุด โดยสถิติเดิมนั้นเป็นของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำเอาไว้ในซีซั่น 2011-2012 ที่ 20 นัดติดต่อกัน แต่ปัจจุบันนี้ ลิเวอร์พูลสามารถทำได้ถึง 23 นัดติดต่อกัน (นับถึงนัดที่เอาชนะคริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา) และก็ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ หากพลพรรคเครื่องจักรสีแดงยังสามารถชนะติดต่อกันในบ้านต่อไปได้เรื่อยๆ
5.(อาจ) ทำสถิติชนะในบ้านมากที่สุดใน 1 ซีซั่น โดยสถิติเดิมนั้นเป็นของแมนฯ ยูฯ แมนฯ ซิตี้ และเชลซี 3 ทีมที่ทำได้เท่ากันที่ 18 นัด ซึ่งตอนนี้ลิเวอร์พูลทำไปได้แล้ว 16 นัด หากพวกเขาสามารถชนะในบ้านได้อีก 3 นัดที่เหลือก็จะทำสถิติแซงทั้ง 3 ทีมขึ้นไปครองบัลลังก์ทีมที่ชนะในบ้านได้มากที่สุด (ทุกนัด) ใน 1 ซีซั่น ที่ 19 นัดแบบหล่อๆ
6.(อาจ) ทำสถิติชนะมากที่สุดใน 1 ซีซั่น โดยสถิติเดิมนั้นเป็นของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำเอาไว้ในช่วงซีซั่น 2017-2018 และ 2018-2019 ที่ 32 นัด ซึ่ง ณ บัดนาวนี้ ลิเวอร์พูลทำไปได้แล้วที่ 28 นัด จากการลงเตะ 31 นัด หากอีก 7 นัดที่เหลือพวกเขาสามารถชนะได้อีก 5 นัด พวกเขาก็จะขึ้นเป็นเจ้าของสถิติใหม่ทันที และหากสามารถชนะรวดได้ทั้งหมด พวกเขาก็จะครองสถิติใหม่แบบโหดๆ ที่ 35 นัดเลยทีเดียว
7.(อาจ) ทำสถิติทำแต้มได้สูงสุดใน 1 ซีซั่น โดยสถิติเดิมนั้น (ก็) เป็นของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อีกแล้ว) ที่ทำเอาไว้ในซีซั่น 2017-2018 โดยซีซั่นนั้นแมนฯ ซิตี้ ทำแต้มได้ถึง 100 คะแนน ซึ่งปัจจุบัน ลิเวอร์พูลเก็บไปได้แล้ว 86 คะแนนจากการลงเตะ 31 นัด ยังเหลือแต้มให้พวกเขาโกยอีกถึง 21 คะแนน แต่ถ้าต้องการแค่ทำลายสถิติของแมนฯ ซิตี้ แค่ชนะอีก 5 นัด เก็บเบาๆ 15 คะแนน พวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่แล้วที่ 101 คะแนน แต่ถ้าอยากหล่อแบบสุดๆ ก็ต้องชนะรวด 7 นัด ทำสถิติเก็บแต้มได้ 107 คะแนนไปเลยยยย…
8.ทำสถิติชนะทุกทีมในลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยลิเวอร์พูลสามารถชนะทั้ง 19 ทีมร่วมลีกได้ทั้งหมดในซีซั่นนี้
9.แชมป์พรีเมียร์ลีกจะดึงดูดนักเตะบิ๊กทีม แน่นอนว่าด้วยผลงานขั้นเทพเช่นนี้ย่อมเป็นที่ดึงดูดใจของนักเตะบิ๊กทีมจากทั่วโลก ในช่วงซัมเมอร์นี้ลิเวอร์พูลน่าจะมีตัวเลือกในการเสริมทัพมากขึ้น ส่งผลต่อศักยภาพของทีมที่น่าจะเพิ่มขึ้น และสามารถยึดบัลลังก์พรีเมียร์ลีกไปได้อีกนานๆ
10.รถแห่ไม่เก้อแล้วววว!!! 555
SBOTHAICLUB - เล่น SBOBET กับน้องโยโย่ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ