ข่าวฟุตบอลทั้งหมด

จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อเรือใบโดนแบน!

กลายเป็นข่าวคราวที่ช็อควงการลูกหนังครั้งใหญ่ทีเดียวนะครับ สำหรับกรณีที่เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า สั่งแบนไม่ให้เตะในรายการถ้วยหูโต ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (รวมไปถึงถ้วยอื่นๆ ในเวทียุโรป) เป็นเวลา 2 ซีซั่น จากความผิดในกรณีที่ทีมเรือใบสีฟ้าทำผิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ (Financial Fair Play : FFP) หรือกฎควบคุมการเงิน ที่มีหลักการว่าด้วยการซื้อนักเตะเข้าทีม ทุกสโมสรต้องใช้เงินในส่วนที่เป็นกำไรในการซื้อนักเตะใหม่เท่านั้น โดยเฉพาะทีมระดับบิ๊กๆ ที่มีเจ้าของร่ำรวยอู้ฟู่ ห้ามไม่ให้เจ้าของใช้เงินส่วนตัวมาซื้อนักเตะเด็ดขาด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความแฟร์ระหว่างทีมใหญ่กับทีมเล็กๆ ถ้าหากทีมใหญ่ทุ่มซื้อนักเตะบิ๊กเนมแบบไม่อั้น ทีมเล็กจะไปสู้ได้อย่างไร นอกจากการกู้หนี้ยืมสินมาซื้อกับเขาบ้าง ซึ่งมันสุ่มเสี่ยงที่จะประสบภาวะล้มละลายเหมือนที่ลีดส์ ยูไนเต็ด เคยประสบ

แน่นอนครับว่าทีมระดับแมนฯ ซิตี้ ที่มีเป้าหมายใหญ่ที่สุดในชีวิตอยู่ที่การก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ถ้วยหูโตให้ได้สักทีหลังจากพยายามมาเนิ่นนานหลายปีดีดัก การถูกแบนดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบรุนแรงต่อสภาพจิตใจของทีม และแน่นอน มันจะส่งผลเป็นวงกว้างไม่น้อยทีเดียว ซึ่งจะมีอะไรกันบ้าง ลองไปดูกันครับ

1.เป๊ปอาจเผ่นหนี!

แม้ว่าทางเดอะมิเรอร์ สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษจะออกมาประโคมข่าวว่า เป๊ป กวาดิโอล่า พร้อมจะอยู่คุมทีมแมนฯ ซิตี้ ต่อจนครบสัญญา แม้ว่าทางเรือใบสีฟ้าจะถูกแบนจากรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 2 ซีซั่น แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อชั้นระดับเป๊ปนั้นลำพังแค่การพาทีมลุยคว้าแชมป์ในลีกประเทศ มันไม่เพียงพอและไม่ท้าทายพอแน่นอน

ดังนั้น รอจับตาในช่วงสิ้นสุดซีซั่นนี้ให้ดี ว่ากุนซือสมองเพชรจะทำตามที่สื่อให้ข่าวไว้หรือไม่ แต่ถ้าผมเป็นเป๊ป ผมเองก็ไม่อยู่ต่อนะ…

2.เรือใบถึงคราวเรือแตก!

การได้ลงเล่นในรายการใหญ่ระดับทวีปคือความฝันของนักเตะมากมาย โดยเฉพาะนักเตะระดับท็อป ต่างต้องการที่จะลงเล่นและสัมผัสแชมป์รายการใหญ่ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ดังนั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า การไม่ได้เล่นในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 2 ซีซั่นของเรือใบสีฟ้า ย่อมทำให้นักเตะชื่อดังของทีมหลายต่อหลายคนหมดแรงบันดาลใจในการเล่นให้ทีมต่อไป ซึ่งจากการคาดคะเนของสื่อชั้นนำหลายๆ สำนัก แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสเสียนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้หลายต่อหลายคนเลยทีเดียว อาทิ ลีรอย ซาเน่ (เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค จ้องอยู่!), เควิน เดอ บรอยน์ (เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส, ลิเวอร์พูล และบาร์เซโลน่า จ้องอยู่!), จอห์น สโตนส์ (บาร์เซโลน่า จ้องอยู่!), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด จ้องอยู่!), กาเบรียล เชซุส (เจ้าม้าลาย ยูเวนตุส จ้องอยู่!), แบร์นาโด้ ซิลบา (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จ้องอยู่!), ริยาด มาห์เรซ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จ้องอยู่!), เอแดร์สัน (สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี หันมาจ้องทันควัน! เพื่อจะเอาไปแทนที่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า) ฯลฯ

นี่แค่การคาดคะเนเบื้องต้นนะครับ จะเห็นได้ว่าตัวจริงเกือบยกชุดมีโอกาสที่จะย้ายหนีแมนฯ ซิตี้ ไปหาทีมใหญ่อื่นๆ ที่ได้เล่นในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกแบบแบเบอร์ ซึ่งถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงดังนี้แล้วละก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแมนฯ ซิตี้ อาจต้องเผชิญหน้ากับยุคมืดเร็วกว่าที่คาด…

3.สปอนเซอร์จะหาย รายได้จะหด!

การได้ลงเล่นในเวทีใหญ่ของยุโรป มันย่อมนำมาซึ่งรายได้มหาศาลจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอด จากสปอนเซอร์ต่างๆ รวมไปถึงการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสโมสร แต่เมื่อรายการลงเตะดังกล่าวหายไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารายได้ในส่วนที่เคยได้ดังกล่าวนี้ย่อมลดน้อยถอยลงไปไม่น้อย ซึ่งแน่นอน มันย่อมกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินธุรกิจของสโมสรอย่างไม่ต้องสงสัย

4.อาจหล่นชั้นไปเล่นในลีกทู!

อันนี้เป็นกระแสข่าวที่มีเข้ามาต่อเนื่องในช่วง 2 วันนี้ ว่าจากการทำผิดกฎดังกล่าว อาจทำให้แมนฯ ซิตี้ ถูกตัดแต้มถึงขนาดต้องลงไปเล่นในระดับลีกทู ซึ่งเป็นลีกอาชีพระดับต่ำที่สุดของอังกฤษเลยทีเดียว (จะยังไม่พูดถึงกรณีที่อาจโดนริบแชมป์เมื่อปีก่อนนะครับ นั่นอีกกรณีนึง)

ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็กล่าวได้ว่าถึงคราวอภิมหาโคตะระซวยของแมนฯ ซิตี้ อย่างแท้จริง เพราะดาวดังจะทิ้งทีมไปมากกว่าที่กล่าวถึงในข้างต้นเป็นแน่แท้ อีกทั้งรายได้ก็จะหายไปเสียยิ่งกว่าที่กล่าวถึงในข้างต้นเช่นกัน

ถ้าต้องตกลงไปเล่นในลีกทูจริง แมนฯ ซิตี้ จะอยู่ในสภาพของการปฏิวัติทีมใหม่แน่นอน แม้อาจจะใช้เวลาไม่นานในการกลับมาสู่พรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาก็จะกลับมาในสภาพที่ไม่เหมือนเดิม ประหนึ่งการกลับไปตั้งไข่เพื่อไขว่คว้าหาความสำเร็จใหม่เลยทีเดียว

5.ท่านชีคจะทิ้งเรือ!

นับตั้งแต่ ชีค มานซูร์ เข้ามาเทคโอเวอร์เรือใบสีฟ้า ทั้งสโมสรและแฟนบอลต่างก็หน้าชื่นตาบานกับความสำเร็จในระดับประเทศ จากการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบหลายต่อหลายสิบปีมาครอง ทว่าในระยะหลังนี้ ความสำเร็จในประเทศนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับสโมสรและแฟนนานุแฟนของทีม การก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนั่นต่างหากที่เป็นดั่งความฝันที่คอยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของสโมสรเอาไว้ และเมื่อมันเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คิดฝันขึ้น ความฝันก็ย่อมสะดุด และทุกคนต่างก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริงอันโหดร้าย (และอาจจะร้ายกว่าที่คิดหากทีมโดนถีบลงไปเล่นในลีกทูจริง)

ในฐานะแฟนบอลและเจ้าของทีม ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าท่านชีคเป็นแฟนบอลประเภทเดนตายของเรือใบสีฟ้าแค่ไหน? แต่กับคนที่พุ่งชนความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอเช่นเขา เมื่อถึงเวลาที่เส้นทางแห่งความสำเร็จต้องสะดุดหยุดลง (และอาจร่วงหล่นลงสู่ก้นเหวที่ชื่อลีกทู) มันมีโอกาสไม่น้อยทีเดียวที่ท่านชีคจะตัดสินใจโดดเรือหนี ด้วยการขายทอดตลาดแมนฯ ซิตี้ ให้กับเศรษฐีหรือกลุ่มทุนอื่นต่อไป เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น การถูกแบนในถ้วยหูโต (และอาจรวมถึงการตกชั้น) ย่อมบั่นทอนรายได้ของทีมเรือใบสีฟ้าไปไม่น้อย และมันย่อมกระทบต่อธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย สมมติว่าท่านชีคเป็นแฟนบอลเดนตายของทีม แต่ถ้าไม่สามารถสร้างผลกำไรจากการทำทีมได้ มันก็ไม่น่าจะที่ทู่ซี้ทำต่อไป ดังนั้น ลองจับตาในช่วงซัมเมอร์นี้ให้ดี เพราะมีโอกาสที่ทีมเรือใบสีฟ้าจะได้เจ้าของใหม่ ซึ่งไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะช่วยพาให้ทีมกลับมายิ่งใหญ่ หรือจะทำให้ทีมจมอยู่กับความย่ำแย่ไปอีกยาวๆ…

นั่นคือการคาดคะเนถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับทีมเรือใบสีฟ้า จากกรณีกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์เอฟเฟกส์นะครับ จะจริงไม่จริงต้องรอติดตามลุ้นกันดู โดยเฉพาะแฟนๆ เรือใบสีฟ้า ที่ต้องติดตามกันชนิดตาไม่กะพริบเลยทีเดียว.

SBOTHAICLUB LINE

SBOTHAICLUB - เล่น SBOBET กับน้องโยโย่ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

Comments

comments

SBOBET SBOTHAICLUB
To Top