และแล้วผลประกบคู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกประจำซีซั่น 2018/19 ก็คลอดออกมาแล้วนะครับ ก็ดังที่หลายๆ คนคงทราบกันไปแล้วแหละว่าใครเจอใครกันบ้าง ส่วนใครที่ยังไม่ทราบ ก็ตามนี้เลยครับ
– อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) VS. ยูเวนตุส (อิตาลี)
– ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) VS. เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
– ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ) VS. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)
– บาร์เซโลน่า (สเปน) VS. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
ดูจากทรงตามผลการประกบคู่นี้แล้ว ทีมที่ชวนอ้วกแตกอ้วกแตนมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นแหละครับ ขณะที่สาวกหงส์แดง เดอะค็อป ก็คงยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีฟาร์มสุข เพราะคงจะได้รับประทานขนมหวานอีก 1 รอบ กระนั้นก็ดี สำหรับคอบอลอังกฤษจ๋าๆ ก็คงแอบมีเสียดายกันบ้างไม่มากก็น้อยนะ เพราะน่าจะแอบคาดหวังว่ารอบรองชนะเลิศอาจเกิดปรากฏการณ์ 4 ทีมจากอังกฤษเข้ารอบครบหมดทั้ง 4 ทีม แต่ก็นั่นแหละครับ โอกาสที่ว่าก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะสเปอร์ดันถูกจับมาเจอกับเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซะได้ ไม่อย่างนั้นก็คงแอบมีลุ้นกันสนุกๆ เป็นสีสัน (และเป็นปรากฏการณ์) เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามครับ หลังจากที่ทราบผลการประกบคู่กันไปแล้ว สื่อหลายสำนักก็เริ่มเล่นข่าวนี้ โดยเฉพาะการทายผลที่จะเกิดขึ้น ว่าใครจะรอด? และใครจะร่วง? ในรอบ 8 ทีมของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในซีซั่นนี้ ว่าแล้วเราก็คันไม้คันมือเหมือนกัน ขอมาทายผลกะเขาบ้างดีกว่า
– อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) VS. ยูเวนตุส (อิตาลี)
ผลงานการบุกไปถล่มเรอัล มาดริด คาซานติอาโก เบอร์นาบิว ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 1-4 ไม่ใช่เรื่องที่ทีมใหญ่ทีมไหนๆ ในโลกจะทำได้นะครับ แต่ขุนพลอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั่นทำให้พวกเขาพลิกผันพาตัวเองผ่านเข้ารอบมาได้อย่างเซอร์ไพร์สสุดๆ หลังจากที่นัดแรกโดนเรอัล มาดริด บุกไปขย่มคาบ้าน อัมสเตอร์ดัมอาเรน่า 1-2
ขณะที่ยูเวนตุสเองก็ไม่ธรรมดา หลังจากที่บุกไปพ่ายทีมตราหมี แอตเลติโก มาดริด ที่เอสตาดิโอเมโตรโปตาโน 2-0 หลายฝ่ายก็พานคิดกันว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วแหละที่ยูเวนตุสจะผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายนี้ไปได้แม้จะได้กลับไปเล่นในบ้านของตัวเองก็ตาม แต่กระนั้นก็ดี ถึงที่สุดแล้วก็เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่โชว์ฟอร์มเจิดจรัส ซัดเหมาคนเดียว 3 ตุงให้เจ้าม้าลายเปิดรังถล่มทีมตราหมีไปได้ 3-0 รวมผล 2 นัด กลายเป็นยูเวนตุสที่พลิกผันผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้เฉย 3-2 (สกอร์ส้วยสวย)
สำหรับศึกคู่นี้ที่ต่างฝ่ายต่างถีบทีมจากกรุงมาดริดร่วงตกรอบไป แม้อาแจ็กซ์ดูจะมีลูกปาฏิหาริย์ที่ชวนจับตามอง โดยเฉพาะผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้เจิดจรัสรัศมีในรอบก่อนอย่าง ดูซาน ทาดิช และ เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่ทำเกมได้อย่างอันตรายและมีประสิทธิผลอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ผู้เล่นของอาแจ็กซ์ส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยกระเตาะ ก็อาจทำให้ขาดทักษะในการรับมือกับความกดดันในเกมใหญ่ๆ แบบนี้ได้ (ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่อาแจ็กซ์เผชิญมาตลอดเวลาเข้ารอบลึกๆ บอลถ้วยยุโรปนับตั้งแต่ใช้นโยบายขายนักเตะกิน) ซึ่งกลับกันเลยสำหรับยูเวนตุส ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นชนิดเขี้ยวลากดิน พร้อมเจอทุกทีมในโลกนี้
แต่อย่างไรก็ตาม จากเกมที่เจ้าม้าลายเสียศูนย์ในนัดพ่ายแอตเลติโก มาดริด มันสะท้อนให้เห็นว่าเวลาที่เจอเกมกับทีมที่เล่นแทคติครับเหนียวและสวนคม เจ้าม้าลายก็ยังมีปัญหาทุกครั้ง กระนั้นก็ดีในนัดที่ 2 เทรนเนอร์ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ก็แก้เกมได้เด็ดขาด และนำมาสู่การพลิกชนะอาแจ็กซ์และเข้ารอบได้ในที่สุด
โจทย์สำหรับอาแจ็กซ์ในเกมนี้จึงอยู่ที่การวางแท็คติคที่แน่นเหนียวในเกมรับ ซึ่งน่าจับตาไปที่ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ กองหลังดาวโรจน์อนาคตไกลที่หลายทีมกำลังจับตามอง แล้วใช้ลูกสร้างสรรค์ของเดอ ยอง และทาดิช ในการสวนเร็ว รวมไปถึงการใช้ลูกบ้าสไตล์ทีมคนหนุ่มในการบดบี้ผู้เล่นวัยเก๋าของยูเวนตุส ซึ่งถ้าทำได้ตามนี้ ก็ไม่แน่ว่าอาแจ็กซ์อาจสร้างเซอร์ไพร์สได้ แต่ถ้าเผลอหลุด อันนี้น่าจะเป็นยูเวนตุสเซิ้งยาวๆ ทั้งไปทั้งกลับ
ทีมที่ (น่า) จะผ่านเข้ารอบ : ยูเวนตุส ด้วยสกอร์ที่ไม่ขาดมาก (วัดจากความเขี้ยวของผู้เล่นและการแก้เกมที่เด็ดดวงของอัลเลกรี)
– ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) VS. เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
ลิเวอร์พูลผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก แม้จะต้องเจอกับโคตรทีมแห่งเมืองเบียร์อย่างบาเยิร์น มิวนิค แม้นัดแรกจะบ้อท่าในถิ่นแอนฟิลด์เพราะทำได้เพียงเสมอไป 0-0 แต่ฟอร์มในนัดที่ 2 ที่อาลิอันซ์อารีนา บ้านของบาเยิร์น กลับเป็นพลพรรคหงส์แดงที่โชว์ฟอร์มแกร่งจัด อัดเจ้าบ้านพังพาบหมดสภาพไป 1-3
ขณะที่ปอร์โต้นั้นแม้จะโชว์แกร่ง ผ่านหมาป่าอิตาเลี่ยนอย่างโรม่ามาได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฟอร์มโดยรวมยังไม่แกร่งทั่วแผ่นมากนัก และโรม่าเองก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่แข็งแกร่งเหมือนหลายๆ ซีซั่นก่อน
ด้วยเหตุนี้ และไหนจะสถิติในอดีตที่บ่งชี้ชัดเจนว่า ปอร์โต้แทบไม่ต่างอะไรกับขนมกรุบสำหรับลิเวอร์พูล ก็พอจะชี้ชัดได้อย่างไม่ยากเย็น (และแทบไม่ต้องวิเคราะห์อะไรกันมากมายนัก) ว่าน่าจะเป็นลิเวอร์พูลที่เป็นฝ่ายเข่นยอดทีมจากโปรตุเกสไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ยกเว้นแต่ว่าจะมีเซอร์ไพร์ส ซึ่งถ้าถึงจุดนั้น ก็น่าจะต้องเป็นเซอร์ไพร์สขนานใหญ่อภิมหาใหญ่ยักษ์มากๆ เลยทีเดียว
ทีมที่ (น่า) จะผ่านเข้ารอบ : ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์แบบถล่มทลาย
– ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ) VS. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)
มาถึงคู่ดาบี้แมตช์จากเกาะอังกฤษกันบ้างครับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถือว่าโชว์ฟอร์มได้จัดจ้านมากในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ โดยเฉพาะในรอบ 16 ทีม ที่ทำการจัดการกำราบยอดทีมพลังหนุ่มแห่งเมืองเบียร์ที่มีดีเอ็นเอคล้ายสเปอร์เองอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปได้ทั้งไปทั้งกลับ (เปิดรังอัดไป 3-0 และบุกไปเฉือนถึงรังซิกนัล อิดูน่า พาร์ค 0-1)
ขณะที่พลพรรคเรือใบสีฟ้านั้นก็ไม่แตกต่างกัน (ออกจะโหดกว่ามากด้วยซ้ำ) เพราะได้กระทำการระเบิดถังอุจจาระทีมแกร่งจากเยอรมนีอย่างชาลเก้ 04 ไปแบบเละเทะหมดรูป (บุกไปอัดถึงบ้าน 2-3 และกลับมาเปิดบ้านอัดไปอีก 7-0) เรียกว่าฟอร์มแชมป์จนบ่อนหลายๆ สำนักปรับราคาเต็งแชมป์กันแทบไม่ทันหลังจบรอบ
อย่างไรก็ตาม เวลาที่สเปอร์เจอกับแมนฯ ซิตี้ เอง ที่ผ่านๆ มาก็เรียกว่าไม่มีเกมไหนง่ายสำหรับเรือใบสีฟ้าเลย อย่างในนัดที่เจอกันในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ (ซึ่งเพิ่งเจอกันไปนัดเดียว) ก็เป็นแมนฯ ซิตี้ ที่บุกไปเฉือนสเปอร์ถึงบ้าน 0-1
หากวัดกันที่ผลงานในลีกช่วงที่ผ่านมาก็อย่างที่ทราบครับว่า สเปอร์กำลังหูรูดชำรุด ไต่อันดับทำคะแนนไม่ได้เลย ขณะที่แมนฯ ซิตี้ นั้นแรงเอาๆ จนสามารถแซงลิเวอร์พูลไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้ กระนั้นก็ดี ด้วยความที่ในเวลานี้สเปอร์ (เรียกได้ว่า) หมดลุ้นในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อาจสั่งให้ลูกทีม “เอานะมึง!!!” กับถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกใบนี้ค่อนข้างแน่
ภาพเกมการแข่งขันน่าจะออกมาในรูปของพลพรรคนักเตะสเปอร์วิ่งใส่กันแหลก ขณะที่เรือใบสีฟ้านั้นน่าจะเล่นแบบรัดกุมและหาจังหวะบุกเน้นๆ แต่มีประสิทธิภาพตามสไตล์
คู่นี้เป็นคู่หนึ่งที่ทายผลยากนะครับเอาจริงๆ แล้ว เพราะถ้าว่ากันที่เชิงชั้นนั้นแมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าแน่นอน แต่ขณะเดียวกันสเปอร์นั้นก็มีลูกเซอร์ไพร์สอยู่เรื่อยๆ ในนัดที่ถูกมองว่าเป็นรองแน่ๆ แต่กลับฟอร์มดีเปรี้ยงปร้างพลิกเป็นฝ่ายชนะมาก็ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตามครับผมมองว่า…
ทีมที่ (น่า) จะผ่านเข้ารอบ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์เฉือนๆ กรณีที่นักเตะสเปอร์ไม่หลุด (แต่ถ้าหลุดอาจมีมหกรรมถล่มถังอุจจาระกันอีกคำรบหนึ่ง)
– บาร์เซโลน่า (สเปน) VS. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
มาถึงคู่สุดท้ายและน่าจะเป็นคู่บิ๊กแมตช์ในรอบ 8 ทีมนี้นะครับสำหรับศึกต่างดาวปะทะปีศาจ
บาร์เซโล่านั้นก็มาตามฟอร์มครับ เปิดบ้านอัดโอลิมปิก ลียง ไปแบบไม่ครณาหัวแม่เท้า 5-1 (หลังจากนัดแรกบุกไปยันเสมอได้ถึงถิ่นปาร์กอแลงปิก ลียอแน 0-0) ผ่านเข้ารอบมาได้แบบชิลล์ๆ
ขณะที่ปีศาจแดงนั้นถือว่าพลิกนรกมาได้ หลังจากเปิดบ้านโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกมาอัด 0-2 ดูทีท่าน่าจะหมดลุ้นแล้ว แต่ในนัด 2 กลับโชว์เก่ง บุกไปอัดคืนถึงถิ่นปาร์กเดแพร็งส์ 1-3 พลิกเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนเฉ้ย!
แน่นอนว่าการมาของน้าลูกอม โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ถือเป็นการปลุกชีพวิญญาณปีศาจแดงให้ลุกออกมาจากหลุมอีกครั้ง ความกระหายในชัยชนะแบบเดิมๆ เหมือนสมัยที่ป๋าแพนด้า เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ยังคุมทีมอยู่ หวนกลับมาสู่พลพรรคนักเตะปีศาจแดงอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตาม น้าลูกอมยังไม่ใช่เซอร์อเล็ก และแม้จะเป็นเซอร์อเล็กเอง เวลาที่ต้องคุมทีมเจอกับทีมต่างดาวอย่างบาร์เซโลน่า ก็ถือเป็นของแสลงที่พลพรรคปีศาจมักเอาตัวไม่รอดทุกครั้งไปในช่วง 10 ปีหลังมานี้ โดยเฉพาะการพ่ายแพ้ในนัดชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้ง ยังถือเป็นบาดแผลที่เด็กผีทุกคนจำได้ไม่ลืมเลือน
ด้วยความโหดของต่างดาว ด้วยความแพ้ทางมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยศักยภาพผู้เล่นแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง (ที่ปีศาจแดงยังเทียบกับบาร์เซโลน่าได้ยากส์ส์ส์) และด้วยความยังไม่เป๊ะมากของน้าลูกอม ทำให้ถึงที่สุดแล้วผมคิดว่า…
ทีมที่ (น่า) จะผ่านเข้ารอบ : บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์ที่แมนฯ ยูฯ สู้ม่ายด้ายยยย
ทำนายทายทักหมดทั้ง 4 คู่ 8 ทีมไปแล้วนะครับ จะเป็นจริงแค่ไหน ต้องรอติดตามชมกัน โดยทีมแรก (จากผลการประกบคู่ด้านบนบทความ) จะเป็นเจ้าบ้านก่อน นัดแรกจะเซิ้งแข้งกันในวันที่ 9-10 เม.ย. และนัดที่สองจะเล่นกันในวันที่ 16-17 เม.ย. ส่วนรอบรองชนะเลิศนัดแรก จะเล่นกันในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. และนัดที่สองเล่นกันวันที่ 7-8 พ.ค. ส่วนนัดชิงชนะเลิศ จะเล่นกันในวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย.
ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ.
SBOTHAICLUB - เล่น SBOBET กับน้องโยโย่ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ