SBOBET SBOTHAICLUB
ข่าวฟุตบอลฝรั่งเศส

[World Cup 2018] เก็บตก 6 ประเด็นฝรั่งเศสเถลิงแชมป์โลก!

และแล้วก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคร้าบบบบ…สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2018 ณ ดินแดนหมีขาว รัสเซีย และทีมที่เป็นอันดับ 1 ในสังเวียนนี้ก็คือ ทีมตราไก่ ฝรั่งเศส นั่นเองงงง…ด้วยผลงานการปูพรมถล่มทีมตราหมากรุก โครเอเชีย ไปเหนาะๆ 4-2 ชนิดที่เกมนั้นดูสนุกและมีสีสันเกินกว่าที่หลายๆ คนคาดเอาไว้ทีเดียว และนี่คือการเก็บตกแมตช์คู่ชิงชนะเลิศระหว่างฝรั่งเศสกับโครเอเชียในเวิลด์คัพ 2018 ครั้งนี้ครับ ไปไล่ดูกันดีกว่า…

 

1.ฝรั่งเศสแกร่งสุดในทัวร์นาเมนต์นี้

 

แน่นอนตามนั้นแหละครับ ด้วยฟอร์มการเล่นที่เน้นเกมรับแบบโคตรแน่นแน้นแน่น และมีทีเด็ดที่เกมสวนรับที่เร็วเร้วเร็วค่อดๆ นั่นเป็นแผนที่ทำให้ฝรั่งเศสประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในทัวร์นาเมนต์นี้ ด้วยผลงานไม่แพ้ใครเลยตลอดรายการ และเถลิงแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปได้แบบไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น

 

ความเด็ดสุดอย่างหนึ่งของฝรั่งเศสชุดนี้ก็คือ การครอบเกมโดยปล่อยให้อีกฝ่ายครองบอล ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนมากๆ ในเกมรอบรองชนะเลิศที่เจอกับปีศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยี่ยม รวมถึงนัดชิงชนะเลิศที่เซิ้งแข้งกับทีมตราหมากรุก โครเอเชีย นี้แหละ

 

ทั้ง 2 เกมแฟนบอลจะเห็นได้ว่า ฝรั่งเศสครองบอลน้อยและมีโอกาสยิงน้อยกว่าทีมคู่แข่งมากๆ แต่สุดท้ายดันเป็นฝรั่งเศสที่ชนะ และคว้าแชมป์โลกไปในที่สุด (ซะงั้น)

 

การครองเกมโดยปล่อยให้คู่ต่อสู้ครองบอล ก็คือการตั้งโซนรับแน่น ทีมคู่ต่อสู้อยากจะต่อบอลยังไงก็ต่อไป พอบอลเข้ามาป้วนเปี้ยนแถวกรอบเขตโทษ ก็จะเจอผู้เล่นฝรั่งเศสรุมกินโต๊ะและแย่งบอลไปทำเกมบุกสวนกลับเอง

 

ด้วยแผนการเล่นแบบนี้นี่แหละ ที่ทำให้ฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลก

 

แน่นอนว่าการเล่นแบบนี้ได้นั้น นอกจากการมีแผนที่ดีและการเล่นเกมรับอย่างมีวินัยของผู้เล่นแล้ว เกรดของผู้เล่นก็สำคัญอย่างยิ่งนะครับ ซึ่งก็ให้พอดีว่าฝรั่งเศสชุดนี้ดันมีกำแพงเหล็กอยู่อย่างน้อยๆ 3 คน หนึ่งคือ ราฟาแอล วาราน สองคือ ซามูแอล อุมติตี้ (ที่ทั้ง 2 หน่อประสานงานเกมรับกันได้เป็นอย่างดี แม้ตัวอุมติตี้นั้นอาจจะมีจังหวะเหวอจังหวะหลุดบ้าง แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดรุนแรงอะไรมาก) และสามคือ พี่ม้าเหล็ก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซึ่งขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้วเรื่องการกัดไม่ปล่อยและพละกำลังระดับเหนือมนุษย์ สามารถวิ่งทำลายเกมคู่แข่งได้ตลอด 90 นาที (หรือเอาจริงๆ ถ้าต่อเวลาไปเรื่อยๆ มันก็คงวิ่งได้ทั้งวันนั่นแหละ 555) และแถมอีกหน่อก็คือ อูโก้ โยริส ที่ก็ถือว่ามีระดับในฐานะผู้รักษาประตูระดับโลกคนหนึ่ง

 

ผู้เล่นทั้ง 3+1 หน่อนี้แหละที่ทำให้เกมรับของฝรั่งเศสเอาอยู่!!! และก็ให้บังเอิ๊ญบังเอิญว่าในแดนกลางนั้นมี ปอล ป็อกบา ที่ครองเกมได้และจ่ายบอลดี ทำหน้าที่เปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบังเกิดประสิทธิผลเป็นรูปธรรม และก็ให้เผอิ๊ญเผอิญอีกว่าในแดนหน้าของฝรั่งเศสนั้นดันมี อ็องตวน กรีซมันน์ ที่ทั้งเร็ว ทักษะดี ครองบอลดี จ่ายดี และยิงคม รวมไปถึงมี คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เร็วกว่าและยิงคมกว่าอี๊กกกก…คอยทำหน้าที่สวนกลับอย่างหนุกหนาน

 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้แหละที่ทำให้ฝรั่งเศสสามารถเล่นเกมแบบรับแล้วสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังผลให้พวกเขาเถลิงแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปได้ในที่สุด ชะเอิงเงิงเงยยยย…

 

 

2.ทัวร์นาเมนต์ที่ดีของโครเอเชีย

 

แน่นอนว่าแฟนบอลหลายคนคงอดที่จะสงสารและเสียดายโครเอเชียไม่ได้ ที่ทีมตราหมากรุกไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ชาติตัวเองและวงการลูกหนังโลกได้ ด้วยการประกาศตนเป็นแชมป์หน้าใหม่

 

และเบื้องหลังความผิดหวังและคราบน้ำตาของ ลูก้า โมดริช เชื่อว่าแฟนบอลทั้งโลกต่างซูฮกและยกย่องโครเอเชียชุดนี้กันอย่างไม่อาจปฏิเสธ ว่านี่คือทีมที่ยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว มีผลงานพัฒนาขึ้นจากเดิมที่เคยทำได้อันดับที่ 3 มารอบนี้ขึ้นมาคว้าอันดับที่ 2 ได้ แต่เหนืออื่นใดก็คือ ความใจสู้ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 มิติคือ

 

-การวิ่งไม่มีหมด โครเอเชียคือทีมที่วิ่งเยอะและเล่นเยอะที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้นะครับ ไม่ต้องไปวัดจากสถิติอะไรให้วุ่นวายหรอก ลำพังแค่เล่นต่อเวลา 120 นาทีมา 3 นัดติดก่อนจะมาเซิ้งกับฝรั่งเศส แถมในเกมกับฝรั่งเศสเอง พวกเขาก็ยังวิ่งไล่เหมือนไม่มีหมดอีก เท่านี้มันก็การันตีได้แล้วถึงพละกำลังที่ดีเยี่ยม ความฟิตที่เกินร้อย และความใจสู้ (ซึ่งที่จริงแรงพวกเขาอาจไม่ได้เยอะอะไรมาก แต่ด้วยเลือดนักสู้ประจำชนชาติ) ที่ทำให้พวกเขากัดฟันเล่นจนเลือดหยดสุดท้าย

 

-การบุกแบบไม่กลัวใคร ในนัดชิงตอนเริ่มเกม หลายคนน่าจะเห็นเหมือนกันว่า เป็นโครเอเชียนะเออที่เปิดเกมบุกใส่ฝรั่งเศสแบบไม่กลัวดีกรีอดีตแชมป์โลก และจริงๆ แล้วมันไม่แค่นั้นหรอก เพราะแทบตลอดเกมก็เป็นโครเอเชียนั่นแหละที่เปิดเกมบุกใส่ฝรั่งเศส (ซึ่งแน่นอน ที่มันเป็นอย่างนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะฝรั่งเศสเล่นรับรอสวนด้วยส่วนหนี่ง) นั่นแสดงให้เห็นถึงสปิริตและความใจสู้ของนักเตะชาตินี้ได้เป็นอย่างดี

 

และก็เป็น 2 ข้อ 2 มิตินี่เองที่ทำให้โครเอเชียขโมยหัวใจของแฟนบอลทั่วโลกไปได้อย่างไม่ยากเย็นในทัวร์นาเมนต์นี้ และเชื่อว่าพวกเขาน่าจะได้แฟนบอลระยะยาวไปอีกโข

 

เคยได้ที่ 3 มาแล้ว มารอบนี้ได้ที่ 2 เอาน่ะ รอบหน้าของที่ 1 บ้างนะโครเอเชีย…

 

 

3.แมตช์ชิงแห่งความผิดพลาด และแบดสกิลของโยริส

 

ขึ้นชื่อว่าทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก มันก็มีรังสีอะไรบางอย่างชวนให้น่าเกรงขามอยู่แล้วนะครับ และนี่ดันเป็นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกซะอีก เชื่อว่านักเตะที่ลงเล่นในเกมนี้หลายๆ คนน่าจะมีความกดดันและเกร็งกันบ้างไม่มากก็น้อย

 

และก็จะด้วยเหตุนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ (หรืออาจเป็นความซวยแบบไม่ได้ตั้งใจแบบผีผลักซาตานจับยัด) ที่ทำให้เกมนัดชิงครั้งนี้กลายเป็นนัดชิงที่เต็มไปด้วยการเล่นที่ผิดพลาดของผู้เล่นชื่อดังมากมายหลายคน ไล่มาตั้งแต่การโหม่งเช็ดย้อนหลังอย่างสวยงามเข้าประตูตัวเองของ มาริโอ มานด์ชูคิช หรือจะการเหวอแฮนด์บอลแบบไม่ได้ตั้งใจของ อีวาน เปริซิช หรือการโชว์สกิลคาริอุสแบบงงๆ ของกัปปิตันโยริส รวมไปถึงการยิงเว่าแบบแฟนบอลร้องอู้!!! ของป็อกบาในนาทีท้าย

 

เหนืออื่นใด ในบรรดาผู้เล่นที่แสดงความผิดพลาดในเกมนัดนี้ ผมออกจะติดใจการพลาดของโยริสที่สุดครับ

 

โยริสนั้นก็ดังที่กล่าวไปแหละครับ ว่าเข้าข่ายปรากฏชื่ออยู่ในทำเนียบของยอดผู้รักษาประตูในโลก ณ ปัจจุบันขณะนี้ แต่ถ้าเทียบราศีแล้วเขากลับดูไม่เจิดจรัสเท่านายประตูชั้นนำระดับโลกคนอื่นๆ อย่าง มานูเอล นอยเออร์ หรือแม้กระทั่ง ดาบิด เดเคอา ก็ตามที

 

นั่นเพราะนอกจากความเหนียวและช็อตเซฟแบบมหัศจรรย์แล้ว โยริสยังมีอีกสกิลที่ติดตัวมาคือ การพลาดแบบง่ายๆ ในช็อตที่ใครๆ ก็คิดว่าเอาอยู่ นั่งดูอยู่เพลินๆ เห็นบอลกลิ้งเข้าหาโยริสแบบไม่น่าจะมีอะไร ว่าแล้วก็เตรียมจะรอดูบอลถูกเปิดไปข้างหน้าอยู่แล้ว แต่เอ๊ะ! ทำไมบอลไม่มาวะ? หันสายตากลับไปที่โกลอีกที โยริสก็กำลังทำอะไรเสร่อๆ สักอย่างซึ่งเป็นการพลาดทำให้ทีมเสียประตูไปแบบงงๆ อย่างนั้นแหละ (ข้อนี้แฟนไก่น่าจะเข้าอกเข้าใจกันดีนะ)

 

คือโยริสนะครับถ้าไม่มีสกิลแบบเหวอๆ อย่างนี้สักหน่อย มันจะทำให้เขากลายเป็นนายประตูที่น่าเกรงขามและมีออร่ามากกว่านี้อีกเยอะเลย

 

เอ…หรือว่ามันจะเป็นคาแร็กเตอร์ของประตูฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกกันหว่า…/ว่าแล้วก็เหลือบหันไปมองพี่โล้นบาเตซเข้าให้ 555 กรูพอเข้าใจละ…

 

 

4.ซูเปอร์เดชองส์

 

ในขณะที่ผู้เล่นฝรั่งเศสชุดนี้ได้รับการจารึกชื่อไว้ในหลายๆ มิติในโลกฟุตบอล อาทิเช่น แน่นอน แชมป์โลกครั้งแรกของพวกเขา เอ็มบั๊ปเป้กับผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ โยริสในฐานะกัปตันผู้ชูถ้วยแชมป์ และอีกนานานัปการ

 

หนึ่งในทีมฝรั่งเศสที่ก็ได้รับการจารึกชื่ออย่างยิ่งใหญ่ และควรค่าแก่การให้เครดิตสูงสุดคนหนึ่ง นั่นก็คือ ดิดิเยร์ เดชองส์ นั่นเอง

 

สมัยยังเล่นบอลอยู่ เดชองส์คือกัปตันทีมที่ชูถ้วยแชมป์บอลโลกเมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสเถลิงคว้าแชมป์ครั้งแรกในบ้านตัวเองเมื่อปี 1998 นะครับ และมาบัดนี้ปี 2018 20 ปีให้หลัง เขาก็ได้กลายเป็นกุนซือทีมชาติฝรั่งเศสที่ได้ชูถ้วยแชมป์

 

นั่นทำให้เขาคือมนุษย์คนที่ 3 ในโลกใบนี้ที่ได้ชูถ้วยแชมป์โลกทั้งในฐานะของนักเตะและผู้จัดการทีม ตาม มาริโอ ซากัลโล ของบราซิล และ ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ของเยอรมนี

 

เอ้า…ปรบมือสิครัชพี่น้อง รอไรกันล่ะ?

 

 

5.การฉลองแชมป์ที่เปียกปอนที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

 

อันนี้ไม่มีอะไรครับ แค่รู้สึกแปลกตาไม่น้อยกับการที่หลังจากเตะกันเสร็จ ฝนก็กระหน่ำลงมายังลุชนิกี้ สเตเดี้ยม อย่างบ้าคลั่ง (เหมือนหลั่งน้ำตาให้ความเศร้าของชาติโครแอต) จนทุกอย่างเปียกปอนไปเสียหมด สภาพของท่านประธานฟีฟ่า ท่านปูติน ท่านมาครองและท่านอื่นๆ อีกมากมาย และรวมไปถึงนักเตะและโค้ชและทีมงานแต่ละคน ล้วนเปียกปอนไปทั่วในขณะที่กำลังดำเนินพิธีคล้องเหรียญและรับถ้วยแชมป์กัน

 

ที่พีคกว่านั้นก็คือ โยริสชูถ้วยปุ๊บ สายรุ้งสีทองก็ถูกยิงเปรี้ยงออกมาจากโพเดี้ยม เมื่อปะทะเข้ากับความเปียกของน้ำฝนแล้ว มันจึงทำให้ผู้เล่นของฝรั่งเศสและทีมโค้ชกลายร่างไปเป็นพระพุทธรูปที่ถูกปิดทองคำเปลวเต็มตัวกันโดยพลัน 555

 

อันนี้ไม่มีอะไรครับ แค่ขำและชอบในจังหวะนรกของฝนรัสเซียเท่านั้นแหละ ว่าช่างตกได้บัดซบดีแม้ว่ะ 555

 

 

6.ชิรูด์ได้ชูถ้วยแชมป์โลกนะโว้ยยยย…

 

พีคยิ่งกว่าก็คือ กองหน้าตัวรับระดับตำนานอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่แม้ไม่ยิงในทัวร์นาเมนต์นี้สักประตู

 

แต่กรูได้แชมป์โลกว่ะ!!! 555

 

คารวะท่านกองหน้าตัวรับ ชื่อของท่านจะเป็นตำนานไปอีกยาวนาน…

 

 

 

SBOTHAICLUB LINE

SBOTHAICLUB - เล่น SBOBET กับน้องโยโย่ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

Comments

comments

SBOBET SBOTHAICLUB
To Top