แม้ตลาดนักเตะประจำช่วงซัมเมอร์ของทางฝั่งสหราชอาณาจักรจะปิดตัวลงไปนานแล้ว แต่ทางฝั่งยุโรปยังไม่ปิดนะครับ ช่วงนี้เราจึงยังเห็นข่าวการจะย้ายและย้ายตัวแล้วของผู้เล่นกันอยู่ แม้จะไม่คึกคักมากนักเหมือนเมื่อช่วงตลาดเปิดใหม่ๆ แต่ก็ยังมีข่าวของนักเตะประเภทที่ต้องร้องอือฮื้อ…กันอยู่บ้าง
หนึ่งในนั้นก็นี่เลยครับ อดีตพ่อมดน้อย ขวัญใจ ส.เดอะค็อป ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่หลังจากหมดอนาคตกับเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า เป็นที่แน่นวล และเจ้าตัวก็พยายามดิ้นหาทีมใหม่สุดตัว ในที่สุดก็สมหวังไปแล้วกับการย้ายประเทศไปลงเอยกับยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกา เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค โดยการย้ายตัวครั้งนี้เป็นไปในรูปแบบของการยืมตัว 1 ซีซั่น บวกออพชั่นซื้อขาด แม้จะไม่มีการประกาศค่าตัวในการยืมตัวครั้งนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่สื่อหลายๆ สำนักก็รายงานตรงกันว่า ค่าตัวของพ่อมดน้อยในการยืมตัวครั้งนี้ตกอยู่ที่ 8.5 ล้านยูโร หรือประมาณ 297.5 ล้านบาทไทย ขณะที่ออพชั่นซื้อขาดนั้น ถ้าเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค พึงพอใจในฟอร์มของพ่อมดน้อยและอยากเซ้งต่ออย่างถาวร ก็ต้องจ่ายให้ทางเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ในสนนราคาที่ 120 ล้านยูโร หรือประมาณ 4,200 ล้านบาทไทยด้วยกัน
เห็นรอยยิ้มของคูตินโญ่ในวันนี้ ก็พานให้ย้อนนึกไปถึงวันที่เขาตัดสินใจทอดทิ้งหงส์แดง ลิเวอร์พูล เพื่อตามความฝันไปซบอกบาร์เซโลน่าใหม่ๆ ได้นะครับ มันเป็นรอยยิ้มแบบเดียวกันคือ สมหวัง!!!
แต่สภาพการณ์ของเขาหลังจากนั้นก็อย่างที่เราทราบๆ กันดีอยู่ คือจากว่าที่ตำนานในสนามแอนฟิลด์ คูตินโญ่กลายเป็นตัวสำรองดาดๆ ในแคมป์คัมป์ นู เท่านั้น คือไม่ได้รับโอกาสลงเล่นเท่าที่ควรจะเป็น และครั้นลงมาเล่นก็ไม่ได้ถึงขั้นมหัศจรรย์ที่กุนซือจะต้องจับลงทุกนัด ในเมื่อบาร์เซโลน่านั้นมีเทพเจ้าประจำถิ่นอย่าง เลโอเนล เมสซี่ อยู่แล้ว
สภาพการณ์ของคูตินโญ่ในสีเสื้อเลือดหมูน้ำเงิน จึงไม่ต่างไปจากสภาพการณ์ของ เนย์มาร์ สมัยที่ยังค้าแข้งอยู่กับเจ้าบุญทุ่มเท่าไหร่ คือรายหลังนั้นอยากเด่นอยากดังเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่ติดตรงที่ทำอย่างไรก็ทะยานไม่พ้นร่มเงาของเมสซี่ไปได้ซักที สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเอง ต้องย้ายออกไปซบอกปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในที่สุด
บทเรียนของเรื่องนี้ก็คือ นักเตะทุกคนต่างใฝ่ฝันที่อยากจะเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของโลก แต่หลายๆ ครั้งสำหรับหลายๆ คน ความฝันนั้นอาจเป็นจริงแค่ครึ่งเดียว คือได้ย้ายไปร่วมทีมก็จริง แต่ความจริงที่ได้ประสบในการย้ายไปเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่นั้น ก็ไม่ได้เจิดจรัสเหมือนดั่งฝัน ถ้าคุณไม่เจ๋งจริงก็ยากที่จะทะลุกลางปล้องขึ้นไปเป็นนักเตะตัวจริงในทีมชีทได้ หรือเจ๋งจริงแต่ไม่เข้ากับระบบทีม ลงไปเล่นแล้วระบบทีมโดยรวมเสีย คุณก็อาจไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริง หากเป็นได้เพียงตัวสำรองที่คอยลงมาพลิกเกมบางครั้งบางคราวเท่านั้น
การย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่สำหรับนักเตะหลายๆ คน จึงเป็นเหมือนการเสี่ยงดวงว่าไปแล้วจะรอดหรือจะร่วง นั่นคือสิ่งที่นักเตะหัวหมาต้องทำใจให้พร้อมยอมรับหากจะขึ้นไปขี่หลังราชสีห์
เห็นคูตินโญ่ในวันนี้แล้วก็พานนึกถึงนักเตะอีกหลายๆ คนที่มีชะตากรรมไม่ต่างจากพ่อมดน้อย คือกระเหี้ยนกระหือรือที่จะย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่ แต่สุดท้ายพอได้ย้ายไปจริง ความฝันที่จะเป็นดาวเด่น เป็นตัวจริง ก็ไม่เกิดขึ้นจริง สุดท้ายก็กลายเป็นขาประจำบนม้านั่งสำรอง และถูกจำหน่ายจ่ายแจกออกไปให้ทีมระดับรองๆ ใช้งาน
พูดอย่างนี้แล้ว นึกถึงใครกันบ้างครับ ลองมาไล่ชื่อกันเล่นๆ ดูมั้ย…
1.เรนาโต้ ซานเชซ (จากเบนฟิก้า สู่บาเยิร์น มิวนิค)
อันดับแรกที่นึกถึงเลย เพราะการมาของคูตินโญ่ ย่อมหมายถึงโอกาสที่ริบหรี่ลงยิ่งกว่าเดิมของอดีตวันเดอร์คิดสัญชาติฝอยทองอย่าง เรนาโต้ ซานเชซ อดีตดาวเตะวันเดอร์คิดโลกลืม
เรนาโต้โด่งดังขึ้นมาอย่างกระฉูดแตกกับเบนฟิก้าในลีกโปรตุเกส จนสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปต่างกลุ้มรุมที่จะจับเจ้าตัวมาเซ็นสัญญาให้จงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวลือหนาหูที่สุด แต่สุดท้ายท้ายสุดเจ้าตัวกลับเลือกที่จะไปดื่มเบียร์ที่มิวนิค โดยเซ็นสัญญาร่วมทัพบาเยิร์น มิวนิค ในปี ค.ศ. 2016 ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร แต่นั่นก็ไม่แสบเท่าการให้สัมภาษณ์หักหน้าแมนฯ ยูฯ ว่า ที่ตนปฏิเสธผีแดงไปนั้นเป็นเพราะว่าเขาอยากไปร่วมทีมใหญ่ เพื่อโอกาสในการประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ซึ่งแมนฯ ยูฯ ในเวลานั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ใหญ่พอ จนแฟนๆ ผีแดงต่างควันออกหูและสาปแช่งดาวเตะฝอยทองอย่างจมหู
อย่างไรก็ดี หลังจากย้ายมาร่วมทัพเสือใต้ได้ 2 ซีซั่น เรนาโตกลับไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นมากพอ และครั้นเมื่อได้รับโอกาสก็ทำได้ไม่น่าประทับใจนัก จนเมื่อซีซั่นก่อนเสือใต้ต้องปล่อยยืมเขาให้กับหงส์ขาว สวอนซี ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งเรนาโตก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าสวอนซีจะเป็นที่ชุบตัวใหม่ให้เขากลับมาอยู่ในเส้นทางของการประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะได้
แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น! ที่สวอนซีนั้น ตลอดซีซั่นเจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นเพียง 17 นัด และไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน จนสุดท้ายก็ต้องกระเตงร่างกลับไปบาเยิร์น มิวนิค เพื่อเผชิญกับชะตากรรมเดิมๆ คือนั่งแกร่วในซุ้มม้านั่งสำรองเสียเป็นส่วนใหญ่
จนสุดท้ายดาวเตะฝอยทองก็ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า ตนเองต้องการอำลาบาเยิร์น มิวนิค เสียที เพราะอยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นทั้งๆ ที่ตัวเขานั้นทำงานหนักมาก (ที่จริงน้องน่าจะลองพิจารณาตัวเองดูนะ ขนาดไปอยู่สวอนซียังไม่ค่อยได้ลงเล่นเลย)
เรนาโตคือตัวอย่างหนึ่งของนักเตะวันเดอร์คิดที่ปรารถนาซบทีมใหญ่ แต่ไม่สามารถผลักดันตัวเองไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของทีมได้ อาจด้วยฝีไม้ลายเท้าไม่แน่พอ หรืออาจเพราะทีมใหญ่อย่างบาเยิร์นมีดาวดังมากเกินไปจนไม่มีที่ว่างให้นักเตะวันเดอร์คิดที่ยังไม่ได้พิสูจน์อะไรตัวเองอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
นับจากนี้ก็คงต้องรอติดตามข่าวกันต่อไป ว่าอดีตวันเดอร์คิดเลือดฝอยทองรายนี้จะได้ที่ชุบตัวใหม่หรือไม่ และทีมไหนจะเป็นผู้หาญกล้ามาเซ้งต่อจากเสื้อใต้
2.อเล็กซ์ ซง (จากอาร์เซน่อล สู่บาร์เซโลน่า)
ในช่วงซีซั่น 2010-2012 ชื่อของ อเล็กซ์ ซง คือห้องเครื่องที่โดดเด่นอย่างยิ่งสำหรับอาร์เซน่อล เขามีทั้งความแข็งแกร่ง การคุมจังหวะเกมที่ชาญฉลาด และลูกจ่ายคิลเลอร์พาสที่ทำให้อาร์เซน่อลกระหน่ำประตูได้อย่างมากมาย
แต่แทนที่จะอยู่โยงเป็นตำนานกับไอ้ปืนใหญ่ ด้วยกลิ่นเย้ายวนของชื่อเสียงเกียรติยศที่หอมหวานกว่าของบาร์เซโลน่า ทำให้ซงตัดสินใจลาจากอาร์เซน่อลไปสู่คัมป์ นู แม้จะมีเสียงทัดทานจากแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่มากมาย
โดยที่เขาไม่รู้เลย ว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็นการแจ้งดับชื่อเสียงในโลกลูกหนังของเขาไปตลอดกาล
ที่บาร์เซโลน่าที่มีกองกลางระดับเวิลด์คลาสเดินขวักไขว่ยั้วเยี้ย ซงไม่สามารถแทรกตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ เพียง 2 ซีซั่นเขาก็ถูกบาร์ซ่าปล่อยยืมให้กับเวสต์แฮม ก่อนจะถูกขายไปให้รูบิน คาซาน ในลีกรัสเซีย ก่อนที่ล่าสุดจะย้ายไปร่วมทีมซิยงในลีกสวิส สิริรวมผลงานตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่เขาอยู่กับบาร์เซโลน่าคือ ได้ลงเล่นไปเพียง 39 นัด และยิงไป 1 ประตูเท่านั้น
3.แจ็ค ร็อดเวลล์ (จากเอฟเวอร์ตัน สู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะนักเตะดาวรุ่งชั้นดีแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นับตั้งแต่ เวย์น รูนี่ย์ มา รอสส์ บาร์คลีย์ และแน่นอนรวมไปถึง แจ็ค ร็อดเวลล์
ตอนที่ถูกดันขึ้นชุดใหญ่มาใหม่ๆ นั้น ร็อดเวลล์เปล่งประกายแสงสว่างเจิดจ้าจนหลายสโมสรจับตามองจนตาจะเป็นกุ้งยิงเอา เพราะนี่มันคือตัวเทพต่อจากรูนี่ย์ชัดๆ ซึ่งตัวร็อดเวลล์นั้นก็โชว์ฟอร์มดีได้อย่างต่อเนื่องกับเอฟเวอร์ตันอยู่หลายปี ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงลำเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี ค.ศ. 2012
แต่การย้ายทีมครั้งนี้กลับไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง ที่จะให้ร็อดเวลล์ก้าวกระโดดจากวันเดอร์คิดไปสู่การเป็นนักเตะชั้นยอดของทีมชาติอังกฤษ เพราะตลอด 2 ปีที่อยู่กับแมนฯ ซิตี้ ร็อดเวลล์ได้รับโอกาสลงสนามเพียงแค่ 16 นัดเท่านั้น ถือว่าน้อยจนถึงน้อยมาก ก่อนที่สุดท้าย เขาก็จะโดนปล่อยไปให้กับซันเดอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 2014 ก่อนจะเริ่มมีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้น เหมือนกับว่ากลัวการเล่นให้ทีมใหญ่ยังไงยังงั้นแหละ
4.เมมฟิส เดปาย (จากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ศึกฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 2014 คือหมุดหมายที่ เมมฟิส เดปาย แจ้งเกิดตัวเองต่อโลกฟุตบอลอย่างเป็นทางการ ด้วยลีลาอันพลิ้วไหว ทว่าแข็งแกร่ง และยิงเฉียบคม โดยเฉพาะลูกฟรีคิก อันถือเป็นสัญลักษณ์ในการถล่มประตูของเขา พิสูจน์ได้จากผลงานในปี ค.ศ. 2014-2015 ที่เขาระเบิดประตูไปถึง 25 เม็ด และอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 36 นัด
ด้วยฟอร์มอันดุเดือดเลือดพล่านดังกล่าว ทำให้ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่รอช้าที่จะรีบเซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาจากอ้อมอกของพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น พร้อมมอบเบอร์เสื้อในตำนานหมายเลข 7 ให้ แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังที่ปีศาจแดงมีให้กับเขา
แต่แล้วเมมฟิสกลับไม่สามารถตอบรับความคาดหวังที่ปีศาจแดงมีให้เขาได้ เขาเล่นไม่เข้ากับระบบทีม ประสานงานกันไม่เข้าใจกับเพื่อน ลีลาการเลี้ยงกระชากลากเลื้อยที่เคยทำได้สมัยอยู่กับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น กลายเป็นการเลี้ยงติดเลี้ยงออก จังหวะสุดท้ายดูป้อแป้สิ้นท่า มีก็แต่จังหวะจบสกอร์ที่ยังคงมีเค้าเดิมอยู่บ้าง แต่ก็นั่นเอง เมื่อไม่สามารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่จะง้างยิงประตูได้ เขาก็เลยยิงได้น้อยถึงน้อยมากที่สุด โดยตลอดระยะเวลาที่เล่นในแมนฯ ยูฯ เขาลงเล่นไปทั้งสิ้น 45 นัด ทว่ากลับทำไปได้เพียงแค่ 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งถือว่าหน่อมแน้มเอามากๆ
สุดท้ายชีวิตการค้าแข้งของเขาก็จบสิ้นกับปีศาจแดง ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมโอลิมปิก ลียง ในลีกฝรั่งเศส ซึ่งเขาก็เริ่มกลับมาเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ อีกครั้งหนึ่งจนมีข่าวว่าแมนฯ ยูฯ อาจพิจารณาดึงเขากลับมาร่วมทีมอีกครั้ง
5.นูริ ซาฮิน (จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สู่เรอัล มาดริด)
หนึ่งในขุนพลยุคปฏิวัติบุนเดสลีกา ที่เสื้อเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามารถผงาดขึ้นมาถีบเสื้อใต้ บาเยิร์น มิวนิค ตกลงจากบัลลังก์แชมป์บุนเดสฯ ได้อย่างที่หลายๆ คนไม่อยากเชื่อ ชื่อของ นูริ ซาฮิน ในตอนนั้นช่างดึงดูดบรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่างยิ่ง และสุดท้ายก็เป็นเรอัล มาดริด ที่จัดการดีลคว้าตัวเขาไปร่วมทัพได้
แต่แล้วจากที่เคยเป็นห้องเครื่องชั้นดี ซาฮินกลับมีช่วงเวลาที่ไม่ดีกับเรอัล มาดริด ทั้งด้วยอาการบาดเจ็บและฟอร์มตก เล่นไม่เข้ากับทีม และไม่ค่อยได้รับโอกาส สุดท้ายเขาก็ไปไม่รอด จากแข้งตัวความหวังของราชันชุดขาว กลับกลายเป็นแข้งปล่อยยืม ก่อนที่สุดท้ายเขาจะต้องกระเตงสังขารกลับไปซบอกเสื้อเหลืองบ้านเก่า แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ จนถูกปล่อยออกไปจากทีมในที่สุด
จากตัวอย่างของ 5 นักเตะข้างต้น แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ที่การโยกย้ายทีมจากเล็กไปใหญ่นั้น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป หากแต่มีปัจจัยมากมายที่เป็นตัวแปรทำให้จากที่ควรจะรุ่ง กลับกลายเป็นร่วงไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ว่าจะเป็นความไม่เก่งจริงของตัวนักเตะเอง ลักษณะการเล่นของแต่ละลีกที่แตกต่างกันจนนักเตะไม่สามารถปรับตัวได้ ขนาดของขุมกำลังของทีมที่ย้ายไปอยู่ ถ้าทีมนั้นมีขุมกำลังขนาดใหญ่ มีนักเตะบิ๊กเนมมากมาย ถ้าคุณไม่เก่งแบบฟ้าประทานจริงๆ ก็คงเป็นการยากที่จะย้ายไปแล้วสามารถแทรกตัวเข้าสู่ทีมชีต 11 คนได้ รวมไปถึงปัจจัยเรื่องอาการบาดเจ็บ ความชอบหรือไม่ชอบขี้หน้าของกุนซือ หรือแม้กระทั่งสภาพอากาศและวัฒนธรรมของเมืองที่ไปอยู่ หากไม่คุ้นชินหรือปรับตัวไม่ได้ ก็อาจส่งผลถึงฟอร์มการเล่นในสนามได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยเหตุผลนี้ จึงอย่าแปลกใจที่เราจะเห็นนักเตะวันเดอร์คิดหลายต่อหลายคนเลือกที่จะเพลย์เซฟ กำจัดความเสี่ยงในการย้ายไปทีมใหญ่แล้วดับ ด้วยการเล่นอยู่กับทีมเดิมไปยาวๆ หรือไม่ก็ย้ายไปร่วมทีมขนาดกลางเพื่อฝึกปรือวิทยายุทธให้แข็งแกร่งกว่าเดิมก่อน จนเมื่อปีกกล้าขาแข็งจริงๆ แล้วจึงค่อยย้ายไปทีมใหญ่อีกรอบ รวมไปถึงการพิจารณาจากปัจจัยหลายต่อหลายปัจจัยข้างต้นก่อนย้ายทีม
แต่อย่างไรก็ตาม นักเตะอีกหลายรายก็เลือกที่จะใช้ความต้องการภายในของตัวเองเป็นแรงขับเคลื่อน ด้วยอีโก้ที่เต็มเปี่ยม (ตามประสาเด็กเก่ง มันก็ต้องมั่น! เป็นธรรมดา) เลือกที่จะพุ่งทะยานเข้าไปอยู่กับทีมใหญ่ในฝันของตัวเอง
ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่แน่นอน ความเสี่ยงมันก็สูงเช่นเดียวกัน…
ถ้ารับตรงนี้ได้ก็ให้ไว.
SBOTHAICLUB - เล่น SBOBET กับน้องโยโย่ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ